รากฟันเทียม ทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไปพร้อมเสริมความมั่นใจ

ศูนย์ : ศูนย์ทันตกรรม

บทความโดย : ทพ. วุฒิพงษ์ เหล่าอมต

รากฟันเทียม

เมื่อสูญเสียฟันธรรมชาติไป การใส่ฟันปลอมเพื่อทดแทนช่องว่างนั้นสามารถทำได้ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปกลับพบปัญหาเกิดการหลวมของฟันปลอมขึ้น โดยสาเหตุส่วนหนึ่งนั้นมาจากที่กระดูกรองรับรากฟันได้ละลายไป ทำให้เกิดการยุบตัวของสันเหงือก ฟันปลอมจึงไม่มีความพอดี ดังนั้นการใส่รากฟันเทียมจึงช่วยชะลอการเสื่อมของกระดูกรองรับรากฟันได้ ทั้งยังช่วยเพิ่มการยึดเกาะให้กับฟันปลอม รวมทั้งไม่ต้องกรอฟันข้างเคียงช่องว่างที่ถอนฟันออกไป จึงไม่รบกวนและไม่สูญเสียโครงสร้างฟันธรรมชาติเลยแม้แต่นิดเดียว สามารถประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มการยึดอยู่ของฟันปลอมถอดได้บางประเภทในผู้ที่ไม่เหลือฟันในช่องปากเลย มีประสิทธิภาพสูงสุด ในการบดเคี้ยว ทำความสะอาดง่ายเหมือนฟันธรรมชาติ ช่วยเสริมความมั่นใจด้วยรอยยิ้มที่โดดเด่น


รากฟันเทียม คืออะไร


รากฟันเทียมคืออะไร รากฟันเทียมคืออะไร

รากฟันเทียม หรือรากเทียม Dental Implant คือ วัสดุที่ทำจากไทเทเนียมที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ ทำให้เข้ากับร่างกายของมนุษย์ได้ รูปร่างคล้ายสกรูนอต ใส่เข้าไปยึดกับกระดูกขากรรไกร เพื่อทดแทนรากฟันธรรมชาติของฟันที่สูญเสียไป รากฟันเทียมจะทำหน้าที่แทนรากฟันธรรมชาติเพื่อรองรับ การทำทันตกรรมฟันปลอมทั้งชนิดถอดได้และชนิดติดแน่นเพื่อช่วยให้ฟันปลอมยึดติดได้ดี การครอบฟัน หรือ สะพานฟัน ที่ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งการฝังรากเทียมถือว่าเป็นการรักษาที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน

> กลับสารบัญ


ปัญหาสุขภาพของฟันส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง?

ปัญหาฟันผุและการถอนฟันส่งผลกระทบหลายด้าน ฟันผุที่รุนแรงทำให้ประสิทธิภาพการบดเคี้ยวลดลง ระบบย่อยอาหารทำงานหนักขึ้น และอาจนำไปสู่ปัญหาโภชนาการได้ และเมื่อถอนฟันออกไป ฟันซี่ข้างเคียงจะล้มเอียง และฟันคู่สบจะยื่นยาวลงมา ทำให้การสบฟันผิดปกติ และเกิดปัญหาข้อต่อขากรรไกร นอกจากนี้ กระดูกขากรรไกรบริเวณที่ไม่มีฟันจะค่อย ๆ สลายตัว ทำให้ใบหน้าดูแก่ก่อนวัย ทั้งนี้การไม่มีฟันโดยเฉพาะฟันหน้า ยังส่งผลกระทบต่อการออกเสียง ทำให้พูดไม่ชัด และลดความมั่นใจในการสื่อสาร รวมถึงความสวยงามของรอยยิ้มที่ลดลง ฟันผุที่ไม่รักษาอาจลุกลามถึงโพรงประสาท ทำให้ปวดรุนแรงและเกิดการติดเชื้อได้

การทำรากฟันเทียม จึงเป็นทางออกที่สำคัญ เพราะทำหน้าที่เสมือนรากฟันธรรมชาติ ช่วยรักษาสภาพกระดูกขากรรไกร ป้องกันการสลายตัว คืนประสิทธิภาพการบดเคี้ยวที่ดีเยี่ยม ป้องกันฟันล้มเอียง และช่วยให้การออกเสียงเป็นปกติ นอกจากนี้ ยังคืนความสวยงามของรอยยิ้ม และเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิต ทำให้การปลูกรากฟันเทียมเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อสุขภาพช่องปากในระยะยาว

> กลับสารบัญ


ใส่รากฟันเทียมเพื่ออะไร

การใส่รากฟันเทียมนั้น เพื่อทดแทนฟันธรรมชาติที่บาดเจ็บจากฟันผุ โรคเหงือก การถอนฟัน อุบัติเหตุทำให้สูญเสียฟัน หรือการสูญเสียฟันที่ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ (ฟันหายไป) และหากมีการสูญเสียฟันจำนวนหลายซี่ ทันตแพทย์สามารถวินิจฉัยและฝังรากฟันเทียมจำนวนหลายชิ้นเพื่อเป็นฐานรองรับสะพานฟันหรือฟันปลอมแบบถอดได้

> กลับสารบัญ


ปรึกษาแพทย์ออนไลน์

ส่วนประกอบของรากฟันเทียม

  1. ส่วนที่ฝังรากฟันเทียมลงไปในกระดูก (Implant Body Or Fixture) มีลักษณะคล้ายสกรู หรือน็อตที่ฝังจมลงไปในกระดูกขากรรไกร เพื่อให้มีการยึดติดกับกระดูกขากรรไกรทำหน้าที่เปรียบเสมือนรากฟัน
  2. ส่วนตัวฐานที่รองรับ (Implant Abutment) เชื่อมระหว่างรากฟันเทียมและครอบฟันหรือส่วนรองรับฟันปลอม
  3. ส่วนตัวฟันทำจากเซรามิก (Crown) โดยมีสีเหมือนฟันและรูปร่างลอกเลียนฟันธรรมชาติ
  4. ส่วนทันตกรรมประดิษฐ์ (Prosthetic Component) คือ ส่วนของฟันเทียม เช่น ครอบสะพานฟัน ฟันเทียมถอดได้ที่ยึดกับ ส่วนที่รองรับตัวครอบฟันโดยใช้กาวทางทันตกรรมยึดหรือสกรู

> กลับสารบัญ


ประเภทของการใส่รากฟันเทียม


ประเภทของการใส่รากฟันเทียม ประเภทของการใส่รากฟันเทียม
การใส่รากฟันเทียมสามารถแบ่งได้ 3 ประเภท ดังนี้
  1. การฝังรากฟันเทียมแบบทั่วไป หรือ แบบดั้งเดิม (Conventional Implant) โดยหลังจากถอนฟัน แล้วจะรอ 2-3 เดือน เพื่อให้กระดูกที่ถอนฟันไปมีการหายที่สมบูรณ์ แล้วค่อยใส่รากเทียมและรอให้เกาะกับรากฟันเทียมโดยสมบูรณ์ก่อน เมื่อกระดูกยึดติดกับพื้นผิวรากเทียมแล้ว ค่อยทำครอบฟันบนรากฟันเทียม
  2. การฝังรากฟันเทียมทันทีหลังจากถอนฟัน (Immediate implant) เพื่อให้ผู้ป่วยลดการผ่าตัด และความบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้น โดยหลังจากถอนฟันแล้วทำการใส่รากฟันเทียมได้เลย หลังจากฝังรากฟันเทียมเรียบร้อยแล้ว รอ 2-3 เดือน เพื่อให้กระดูกยึดเกาะกับรากฟันเทียมอย่างดีก่อน จึงทำการครอบฟัน และใส่ฟันปลอมตัวจริงบนรากฟันเทียม เหมาะกับ ฟันหน้า หรือ ฟันหลัง ที่มีกระดูกที่พอเพียง
  3. การใส่รากฟันเทียม ร่วมกับการทำครอบฟันทันที (Immediate loaded implant) เป็นการประหยัดเวลาการฝังรากเทียมและการใส่ครอบฟันเข้าด้วยกัน เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถมีฟันใช้ขณะรอรากเทียมยึดติดกับกระดูก

> กลับสารบัญ


การรักษาด้วยรากฟันเทียมเหมาะกับใคร

  • ผู้ที่สูญเสียฟันแท้ไป และมีอายุ 18 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่ฟันแตกหักหรือฟันบิ่น โดยที่ทันตแพทย์แนะนำว่าควรถอนฟันซี่นั้นออก ก็สามารถทำรากฟันทียมทดแทนฟันที่สูญเสียไป
  • ผู้ที่ไม่ต้องการใส่ฟันปลอมแบบถอดได้
  • ผู้ที่ไม่ต้องการกรอฟันเพื่อทำสะพานฟันติดแน่น
  • ผู้ที่ต้องการให้ฟันดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
  • ผู้ที่ต้องการยิ้มและเสริมสร้างความมั่นใจ
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหารให้ดีขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการทดแทนฟันที่ไม่แข็งแรง และไม่สามารถทำหน้าที่เป็นฟันหลักยึดให้กับฟันเทียมชนิดอื่น ๆ

> กลับสารบัญ


ข้อจำกัดในการทำรากฟันเทียม

ผู้ที่ต้องการทำรากฟันเทียมควรประเมินตนเองก่อนว่ามีปัจจัยเสี่ยงหรือไม่ หรือหากไม่แน่ใจสามารถพบทันตแพทย์เพื่อวินิจฉัยโดยละเอียดก่อนตัดสินใจทำรากฟันเทียม โดยข้อจำกัดมีดังนี้

  • ผู้ที่อายุยังไม่ถึง 18 ปี เพราะ กระดูกขากรรไกรยังเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่
  • สตรีตั้งครรภ์ ควรรอให้คลอดบุตรก่อนจึงสามารถทำรากฟันเทียมได้
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ไม่ได้รับการควบคุม เช่น โรคเบาหวาน ซึ่งเสี่ยงต่อการที่บาดแผลหายช้า อักเสบ และติดเชื้อได้
  • ผู้ที่ต้องได้รับการฉายแสงรักษามะเร็งบริเวณใบหน้าและขากรรไกร
  • ผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน หรือมีภาวะกระดูกไม่แข็งแรง
  • ผู้ป่วยโรคปริทันต์อักเสบรุนแรง ควรได้รับการรักษาเพิ่มเติมก่อนทำรากฟันเทียม
  • ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลูคีเมีย) ผู้ป่วยไฮเปอร์ไทรอยด์ และผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
  • ผู้ป่วยจิตเภท หรือผู้ที่มีปัญหาเรื่องการควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ และผู้ที่ไม่สามารถดูแลรักษาสุขภาพช่องปากเองได้
  • ผู้ที่สูบบุหรี่จัดและที่เลิกบุหรี่ไม่ได้

> กลับสารบัญ


การเตรียมตัวก่อนการทำรากฟันเทียม


การเตรียมตัวก่อนการทำรากฟันเทียม การเตรียมตัวก่อนการทำรากฟันเทียม

เข้ารับการตรวจและประเมินจากทันตแพทย์เฉพาะทางอย่างละเอียดเพื่อวางแผนการรักษา เช่น จำนวนของรากฟันเทียมที่ใส่ ต้องปลูกกระดูกร่วมด้วยหรือไม่ ต้องจัดฟันหรือไม่ หากมีโรคประจำตัว ควรแจ้งให้ทันตแพทย์รับทราบ โดยแพทย์จะทำการวางแผนการรักษา โดยใช้ Computer Guided Implant Surgery ร่วมกับการภาพถ่ายรังสีแบบ 3 มิติ สแกนช่องปาก ทำการพิมพ์ปาก เพื่อออกแบบตำแหน่งของรากฟันเทียมที่ถูกต้องและเหมาะสมในแต่ละบุคคล เพื่อลดความผิดพลาดของตำแหน่งการฝังรากเทียม การบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อโดยรอบ ขนาดของแผล และลดความเจ็บปวดของผู้ป่วย จากนั้นจะทำการออกแบบอุปกรณ์ กำหนดตำแหน่งรากฟันเทียม แล้วส่งห้องปฏิบัติการเพื่อพิมพ์เป็นอุปกรณ์ เพื่อนำมาใช้ในการผ่าตัดรากฟันเทียม นอกจากนั้นการดูแลสุขอนามัยช่องปากให้ดีเป็นสิ่งสำคัญที่คนไข้ควรปฏิบัติก่อนทำการเข้ารับการรักษา

> กลับสารบัญ


ขั้นตอนการรักษาโดยการใส่รากฟันเทียม

หลังจากทันตแพทย์จะตรวจสภาพช่องปากและเตรียมสภาพช่องปากให้เรียบร้อย จะดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้

  1. ในวันผ่าตัดรากฟันเทียม จะนำอุปกรณ์กำหนดตำแหน่งรากฟันเทียม หรือ Surgical guide มาใช้เพื่อฝังรากเทียม
  2. ทันตแพทย์ทำการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมในตำแหน่งที่เหมาะสม จะใช้เวลาการทำประมาณ 1-2 ชั่วโมง ในบางกรณีอาจมีการเสริมกระดูกก่อน
  3. รอให้กระดูกยึดกับรากฟันเทียมซึ่งใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน
  4. เมื่อกระดูกยึดกับรากฟันเทียมดีแล้ว ทันตแพทย์จะพิมพ์ปากเพื่อทำสะพานฟัน ครอบฟัน หรือฟันปลอม
  5. จากนั้นทำการใส่เดือยฟัน และทำการใส่ สะพานฟัน ครอบฟัน หรือฟันปลอม
  6. > กลับสารบัญ


    วิธีการดูแลรักษารากฟันเทียม


    ดูแลรากฟันเทียม ดูแลรากฟันเทียม

    รากฟันเทียมจะไม่ผุ แต่เกิดโรคเหงือกอักเสบได้หากดูแลได้ไม่ดี การดูแลรักษารากฟันเทียมสามารถทำได้เหมือนการดูแลฟันธรรมชาติ ดังนี้

    • ปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัดหลังทำการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมเรียบร้อยแล้ว
    • ใช้ขนแปรงแบบอ่อนนุ่ม เพราะดีต่อการขจัดคราบเศษอาหารและคราบจุลินทรีย์ ซึ่งคราบจุลินทรีย์อาจเป็นสาเหตุให้รากฟันเทียมหลวม
    • ควรแปรงฟันให้ถูกวิธีร่วมกับการใช้ไหมขัดฟัน
    • ระหว่างพักฟื้นหลังทำรากฟันเทียม อย่ากระทำการใด ๆ ที่จะมีผลกระทบกับฟันปลอมซี่นั้นอย่างรุนแรง
    • ในช่วงแรกหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด เปรี้ยวจัด หวานจัด และอาหารร้อนจัด อาหารที่มีกรดสูง อาหารที่แข็งหรือต้องใช้แรงบดเคี้ยวหนัก ๆ
    • เข้ารับการตรวจรากฟันเทียมกับทันตแพทย์เป็นประจำ เหมือนการตรวจสุขภาพฟันทั่วไป

    > กลับสารบัญ


    ระยะเวลาในการทำรากฟันเทียม

    สำหรับระยะเวลาในการทำรากฟันเทียมนั้นจะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2-4 เดือน ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ของช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นปริมาณและคุณภาพของกระดูกขากรรไกร ที่อาจจะต้องมีการเสริมกระดูกให้แข็งแรง จำนวนฟันที่ต้องการทำรากเทียม เป็นต้น

    > กลับสารบัญ


    ข้อดีของการใส่รากฟันเทียม


    ข้อดีของการใส่รากฟันเทียม ข้อดีของการใส่รากฟันเทียม
    • ฟันเทียมที่ดูเป็นธรรมชาติ โดยทันตแพทย์เฉพาะทางจะเป็นคนออกแบบรูปร่างและสีของครอบฟันบนรากเทียมให้มีความใกล้เคียงกับสีของฟันธรรมชาติมากที่สุด
    • การใส่ฟันรากเทียมมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มีความคงทนมาก โดยปกติแล้วการฝังรากฟันจะอยู่ได้ 20 ปี ขึ้นไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของรากฟันและการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้ป่วย รวมไปถึงการพบทันตแพทย์เป็นประจำตามกำหนดด้วย
    • มอบประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวที่ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ
    • สามารถรับประทานอาหารได้ทุกประเภท โดยไม่จำเป็นต้องกังวลเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่น
    • สามารถช่วยเรื่องการพูดออกเสียง
    • ช่วยลดการละลายของสันกระดูกที่รองรับฟันปลอม
    • สามารถทำความสะอาดฟันได้ง่าย
    • การทำรากเทียมไม่ส่งผลข้างเคียงต่อฟันที่เหลืออยู่

    > กลับสารบัญ


    รากฟันเทียม การลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อสุขภาพช่องปากในระยะยาว

    รากฟันเทียม เป็นการแก้ไขปัญหาการสูญเสียฟันที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูง เพราะสามารถทดแทนได้ทั้งส่วนของรากฟันและตัวฟัน ทำให้แก้ปัญหาฟันผุ การถอนฟัน และผลกระทบหลายด้านต่อสุขภาพช่องปากและคุณภาพชีวิตโดยรวมได้อย่างครอบคลุม การพิจารณาใส่รากฟันเทียมจึงเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพช่องปากและคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว ทํารากฟันเทียม ที่ไหนดี? ศูนย์ทันตกรรม โรงพยาบาลนครธน ให้บริการทำรากฟันเทียมที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Computer Guided Implant Surgery ใช้วางแผนก่อนการใส่รากฟันเทียม ทำให้สามารถวางตำแหน่งและขนาดของรากฟันเทียมที่มีประสิทธิภาพ และแม่นยำมากขึ้น ลดเวลาการพักฟื้น ลดขนาดของแผล และลดเวลาการผ่าตัด หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดได้เลย

    > กลับสารบัญ


    ช่องทางติดต่อโรงพยาบาลนครธน:

    1. - Website : https://www.nakornthon.com
    2. - Facebook : Nakornthon Hospital
    3. - Line : @nakornthon
    4. - Tel: 02-450-9999 (ตลอด 24 ชั่วโมง)


ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย




Share :

สินค้าในตระกร้าไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข, กรุณาตรวจสอบจำนวน
จัดการตระกร้าสินค้า

เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย